I am on the intarweb!
19 มีนาคม 2553
28 ตุลาคม 2552
การนำ Feed มาแสดงผลใน Drupal โดยใช้ Module FeedAPI
การนำ Feed มาแสดงผลใน Drupal นั้น ยังสามารถใช้ Module FeedAPI ที่เป็นการนำ เอาข่าวที่มีคนให้บริการเข้ามาเป็น Content ของเ้ว็บเรา แล้วจะมีลิงค์ไปอ่านยังบทความนั้นต่อ มีข้อดีอยู่ก็คือ เราสามารถจัดการกับ Feed นั้น ๆ ได้เหมือนกับ Content ที่เราสร้างขึ้นมาเลย
ก่อนอื่นเลย เราก็ต้องไปดาวน์โหลด Module FeedAPI จาก http://Drupal .org/project/FeedAPI มาก่อน เสร็จแล้ว แยกไฟล์ แล้วจะได้ Folders FeedAPI ทำการ คัดลอก ไปไว้ใน Sites/All/Modules/ ของ Web Directory หลังจากนั้น ทำการเปิดการใช้งาน Module FeedAPI โดยเข้าไปที่ Administer > Site building > Modules ทำเครื่องหมายถูกที่ด้านหน้า Module FeedAPI ตามรูป แล้วทำการบันทึก
ขั้นตอนต่อไป เราก็ทำการ สร้าง Content type ชนิดใหม่ ให้กับ Feed โดยเราจะสร้าง Content Type ชื่อว่า IT News ให้เข้าไปที่ Administer > Content managements > Content Types > Add content types เสร็จแล้วทำการบันทึก
ขั้นตอนต่อไป ก็ทำการสร้าง Feed โดยเข้าไปที่ Create Content > Feed
ช่อง Title : IT News From Sanook
ช่อง Description : IT News From Sanook
Feed URL : ให้ป้อน Feed URL ที่เราจะนำมาแสดงผล
Node type of feed items: เลือก Content Types ที่เราได้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็น Content ของ Feed ( ที่ได้สร้างไปตอนต้น )
เสร็จแล้วทำการบันทึก
หลังจากเราได้ทำการเพิ่ม FeedAPI item เข้าไปแล้ว เราก็สามารถเข้าไปดูรายการ Feed ที่จะขึ้นมาแสดงผล โดยเลือกที่ Refresh เพื่อทำการดึงข้อมูลออกมาแสดง แล้ว คลิ๊กที่ Feed item เพื่อดูรายการทั้งหมด
ผลลัพธ์ ที่ได้ก็เป็นแบบนี้แหละครับ
ก็ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะครับว่ืาอันไหนจะเหมาะกับคุณ มันมีวิธีใช้ที่ต่างกันนะครับ วันนี้แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน
Author: DevSolution
| Posted at: 08:18 |
Filed Under:
Drupal,
FeedAPI
|
0
ความคิดเห็น
26 ตุลาคม 2552
การนำ Feed มาแสดงผลโดยใช้ Module Aggregator
การนำ Feed มาแสดงผลใน Drupal นั้น ทาง Drupal ได้มี Module อยู่หนึ่งอันที่ทำหน้าที่จัดการกับ Feed ชื่อว่า Module Aggregator ก่อนอื่น เราต้องเข้าไปเปิดใช้งาน Module Aggregator กันก่อน เข้าไปที่ Administer > Site building > Modules ทำเครื่องหมายเช็คถูก ที่หน้า Module Aggregator แล้วทำการบันทึก
หลังจากนั้นเข้าไปดูผลงานที่เราได้ทำมา ครับ จะอยู่ใน Feed Aggregator
เพียงเท่านี้เราก็สามารถทำ ข่าวเข้ามาแสดงในเว็บของเราแล้วครับ
หลังจากนั้นทำการกำหนด Permission ให้กับ Module Aggregator ให้เข้าไปที่ Administer > User management > Permissions โดยจะพบว่า Module Aggregator จะมี สิทธิ์ อยู่ 2 ประเภท คือ access news feeds กับ administer news feeds โดย access news feeds ก็จะเป็นการกำหนด ว่าใครสามารถเข้าถึงการใช้งาน ได้ และ administer news feeds หมายถึง ใครสามารถเข้าไปจัดการได้ ผมจะกำหนด ให้ บุคคลทั่วไป (anonymous user) และ สมาชิก (authenticated user) สามารถเข้ามาใช้งานได้ ผมก็ทำการเช็คถูกที่ user ดังกล่าว แล้วทำการบันทึก
จากนั้น เราก็เข้าไปทำการเพิ่ม หมวดให้กับข่าวโดยเข้าไปที่ Administer > Content Management > Feed Aggregator > Add Category เพิ่มหมวดของข่าวเข้าไปแล้วทำการบันทึก
จากนั้นเราก็ไปหาข่าวที่จะมาแสดง โดยผมได้เตรียมข่าวมาจาก Sanook.com พอเราได้ข่าวที่จะมาแสดงแล้วก็ทำการ เพิ่มข่าว โดยเข้าไปที่ Administer > Content Management > Feed Aggregator > Add Feed ทำการป้อนชื่อของข่าว และ ทำการคัดลอง URL ของข่าว ที่่จะมาแสดง ลงไปในช่อง URL เลือกเวลาในการ อัพเดทข้อมุล และ ทำการเช็คถูกที่ด้านหน้าของหมวดของข่าวที่เราได้เพิ่มเข้าไป
เสร็จแล้วทำการบันทึก
เมื่อเสร็จแล้วจะพบกับ Item ของ Feed และ Feed Category ดังรูป ทำการคลิ๊กที่ Update Items เพื่อทำการดึงข้อมูลมาแสดง
Author: DevSolution
| Posted at: 15:51 |
Filed Under:
Aggregator,
Drupal
|
0
ความคิดเห็น
16 ตุลาคม 2552
การเขึยน PHP code ใน Drupal
การเขียน PHP Code ไว้ใน Content ของ Drupal นั้นสามารถทำได้อย่างง่าย เพราะ Drupal ได้อนุญาติให้เราสามารถเขีียน PHP code ลงใน content ได้ แต่ต้องมีการเปิดใช้งาน Module PHP filter ซึ่งทาง Drupal ได้แนบ Modules ตัวนี้มาเข้ามาด้วยอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน เราต้องเข้าไปเปิดใช้งาน โดยเข้าไปที่ Administer > Site building > Modules ให้ทำเครื่องหมายเช็คถูก ไว้ที่ด้านหน้า Module PHP filter แล้วทำการคลิ๊กที่ Save Configuration
จากนี้เราก็สามารถเขียน PHP code ลงไปใน content ได้แล้ว แต่เราต้องเลือก input format เป็น PHP code
Author: DevSolution
| Posted at: 21:48 |
Filed Under:
Drupal,
PHP Code
|
0
ความคิดเห็น
14 ตุลาคม 2552
การทำ Node แบบสุ่มด้วย Views แบบ Block
วันนี้เราจะมาทำ views สุ่ม Node มาแสดงผลแบบ Block เอาไว้แสดงผลในหน้าแรกหรือ ทุก ๆ หน้า ก่อนอื่น ต้องเตรียมเนื้อหาก่อน ต้องเตรียมข้อมูล คือ สร้าง Blog ขึ้นมาซัก 6-8 บทความก่อน เพื่อจะได้เห็น การสุ่มขึ้นมา
เราจะทำการสร้าง views ให้แสดง Node ออกมา 4 อัน แสดงผลให้เป็นแบบ 2 คอลัมน์ แบบสุ่ม ตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เราก็เข้าไปสร้าง Views โดยไปที่เมนู Administer > Site Building > Views เลือก Add
กำหนดชื่อ views ( view name) เป็น NodeRandom
คำอธิบาย views (view description) เป็น random node
เลือก Next
ขั้นตอนที่ 2 ทำการกำหนด Row style ให้เป็น Node แล้วเลือก Update
ขั้นตอนที่ 3 กำหนด style ให้เป็น grid
จบแล้วครับตัวอย่างการแสดง Node แบบสุ่ม มีปัญหาตรงไหนติดขัดตรงไหนก็ Comment ไว้นะครับ คงไม่ยา่กเกินไปนะครับ แล้วคราวหน้าผมจะเอา เทคนิคดี ๆ มาฝากอีกนะครับ
ขั้นตอนที่ 4 กำหนด จำนวน column ให้เป็น 2
ขั้นตอนที่ 5 กำหนด Items to display ให้เป็น 4
ขั้นตอนที่ 6 กำหนด filter ที่เราจะใช้งาน ( ถ้านำไปใช้กับ Node ชนิดอื่น ก็สามารถเปลี่ยนประเภทของ Node ได้ ) ทำการเลือก filter ชนิด node : type ทำการเลือก Blog entry
ขั้นตอนที่ 7 กำหนด Sort criteria เลือก ให้เป็นแบบ global : Random
ขั้นตอนที่ 8 ทำการ Add display ให้กับ Views ที่เรากำลังสร้างนี้ โดย เลือกประเภท ของ Views ให้เป็น Block และ เลือก Add display
ขั้นตอนที่ 9 ทำการบันทึก Views เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ ถ้าหากท่านไม่ทำการบันทึก ที่เราทำมาข้างต้นทั้งหมด ก็หายไปหมด ฉะนั้น ต้องทำการบันทึกทุกครั้ง (สามารถทำการบันทึกได้ในระหว่างทุก ๆ ขั้นตอนได้) เราขะเห็นตัวอย่าง Views ที่เราได้กำหนดค่าขึ้นมาดังรูป
ขั้นตอนที่ 10 เข้าไปกำหนดการแสดงผล Block ที่เราได้สร้างขึ้นมาจาก Views ได้โดยเข้าไปที่ Administer > Site Building > Block โดยกำหนด ให้ Block ที่เราได้สร้างขึ้นมา (NodeRandom: Block) นำไปวางในตำแหน่ง ของ Content เสร็จแล้วทำการบันทึก Block ดังกล่าว
จากนั้นเป็นการตั้งค่าการแสดงผล ของ Block โดยเราจะกำหนดให้แสดงทุกหน้า่ ยกเว้น หน้า Admin และ หน้าของ User ให้คลิ๊กที่ Configure ที่อยู่ด้านหลังของ NodeRamdom : Block เพื่อเข้าไปสู่ในส่วนของการ กำหนดการแสดงผล
กำหนด Block Title ให้เป็น Blog
กำหนด Show block on specific pages ให้เป็น Show on every page except the listed pages.
กรอกช่อง pages ให้เป็น
admin/*
user/*
แล้วทำการบันทึก ( Save block )
เราสามารถตรวจสอบ Block ที่เราได้สร้างขึ้นมาโดยหน้าตา ทีได้ออกมาก็จะเป็นตามตัวอย่างด้านล่างนี้
แต่ตัวอย่างข้างล่างนี้ ผมได้เปลี่ยน NodeType ตามขึ้นตอนที่ 6 จึงได้ผลออกมาอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
Author: DevSolution
| Posted at: 00:05 |
Filed Under:
Block,
Drupal,
Views
|
0
ความคิดเห็น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)